การ สื่อสาร ผ่าน อินเทอร์เน็ต

บริการบนอินเทอร์เน็ต (Internet Service) บริการบนอินเทอร์เน็ต หมายถึง สิ่งที่เราสามารถกระทำได้เมื่อเราเชื่อมต่อกับ อินเทอร์เน็ต ซึ่งมีมากมายหลายอย่าง เช่น 1. E-mail หรือไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ เป็นบริการในระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่สำคัญที่มีผู้นิยมใช้บริการกันมาก สามารถส่งตัวอักษร ข้อความ แฟ้มข้อมูล ภาพ เสียง ผ่านระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ไปยังผู้รับอาจจะเป็นคนเดียว หรือกลุ่มคน โดยทั้งที่ผู้ส่งและผู้รับ เป็นผู้ใช้ที่อยู่ ในระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์เดียวกัน ช่วยให้ สามารถติดต่อสื่อสาร ระหว่างกันได้ทั่วโลกมีความสะดวก รวดเร็วและสามารถสื่อสารถึงกันได้ตลอดเวลา โดยไม่ต้องคำนึงถึงว่าผู้รับจะอยู่ที่ไหน จะใช้เครื่องคอมพิวเตอร์อยู่หรือไม่ เพราะไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์จะเก็บข้อความเหล่านั้นไว้ 2. การโอนย้ายแฟ้มข้อมูล (Upload, Download, FTP)ก ารโอนย้ายแฟ้มข้อมูลเป็นการเปลี่ยนไฟล์ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ระหว่างเครื่องเซิร์ฟเวอร์ที่ให้บริการในการโอนย้ายแฟ้มข้อมูลเรียกว่า FTP Server กับเครื่องไคลเอนต์ที่ใช้บริการที่เรียกว่า FTP Client แบ่งเป็น 2 ลักษณะ คือ การดาวน์โหลด และ การอัปโหลด 1. การดาวน์โหลด ( Download) คือ การโอนย้ายแฟ้มข้อมูลจากเครื่องเซิร์ฟเวอร์ในระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตมาบันทึกไว้ในคอมพิวเตอร์ 2.

  1. ปัญหาและข้อควรระวังในการใช้อินเทอร์เน็ต | คอมพิวเตอร์ ง20204
  2. ประโยชน์และโทษของอินเทอร์เน็ตเพื่อการสื่อสารในชีวิตประจำวัน – onpriya
  3. - การสื่อสารทางอินเทอร์เน็ต - ICEIZEK12
  4. การสื่อสารผ่านอินเทอร์เน็ต
  5. การสื่อสารผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต | คอมพิวเตอร์ ง20204
  6. การสื่อสารผ่านอินเทอร์เน็ตมีด้านอะไรบ้าง

ปัญหาและข้อควรระวังในการใช้อินเทอร์เน็ต | คอมพิวเตอร์ ง20204

ค. 2004 ก่อตั้งโดยมาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ผู้ใช้สามารถสร้างข้อมูลส่วนตัว เพิ่มรายชื่อผู้ใช้อื่นในฐานะเพื่อน และแลกเปลี่ยนข้อความ รวมถึงได้รับแจ้งโดยทันทีเมื่อมีการปรับปรุงข้อมูลส่วนตัว นอกจากนั้นผู้ใช้ยังสามารถร่วมกลุ่มความสนใจส่วนตัว จัดระบบตามสถานที่ทำงาน โรงเรียน มหาวิทยาลัย หรืออื่นๆ Facebook อนุญาตให้ใครก็ได้เข้าสมัครลงทะเบียนกับ Facebook โดยต้องมีอายุมากกว่า 13 ปีขึ้นไป Hi5 เป็นเว็บไซต์เครือข่ายสังคมที่สนับสนุนให้ผู้ใช้สร้างกลุ่มสังคมของตนเองขึ้นมาโดยการจัดทำข้อมูลส่วนบุคคล

ประโยชน์และโทษของอินเทอร์เน็ตเพื่อการสื่อสารในชีวิตประจำวัน – onpriya

- การสื่อสารทางอินเทอร์เน็ต - ICEIZEK12

ความหมายของระบบอินเทอร์เน็ต อินเทอร์เน็ต (Internet) มาจากคำว่า Inter Connection Network ซึ่งหมายถึง เครือข่ายของเครือข่าย กล่าวคือ เป็นระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่มีขนาดใหญ่ เครื่องคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องสามารถติดต่อสื่อสารกัน โดยใช้มาตรฐานในการรับส่งข้อมูลที่เป็นหนึ่งเดียว หรือเรียกว่า โปรโตรคอล (Protocol) บริการบนอินเทอร์เน็ต (Internet Service) บริการบนอินเทอร์เน็ต หมายถึง สิ่งที่เราสามารถกระทำได้เมื่อเราเชื่อมต่อกับ อินเทอร์เน็ต ซึ่งมีมากมายหลายอย่าง เช่น 1. E-mail หรือไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ เป็นบริการในระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่สำคัญที่มีผู้นิยมใช้บริการกันมาก สามารถส่งตัวอักษร ข้อความ แฟ้มข้อมูล ภาพ เสียง ผ่านระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ไปยังผู้รับอาจจะเป็นคนเดียว หรือกลุ่มคน โดยทั้งที่ผู้ส่งและผู้รับ เป็นผู้ใช้ที่อยู่ ในระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์เดียวกัน ช่วยให้ สามารถติดต่อสื่อสาร ระหว่างกันได้ทั่วโลกมีความสะดวก รวดเร็วและสามารถสื่อสารถึงกันได้ตลอดเวลา โดยไม่ต้องคำนึงถึงว่าผู้รับจะอยู่ที่ไหน จะใช้เครื่องคอมพิวเตอร์อยู่หรือไม่ เพราะไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์จะเก็บข้อความเหล่านั้นไว้ 2. การโอนย้ายแฟ้มข้อมูล (Upload, Download, FTP)ก ารโอนย้ายแฟ้มข้อมูลเป็นการเปลี่ยนไฟล์ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ระหว่างเครื่องเซิร์ฟเวอร์ที่ให้บริการในการโอนย้ายแฟ้มข้อมูลเรียกว่า FTP Server กับเครื่องไคลเอนต์ที่ใช้บริการที่เรียกว่า FTP Client แบ่งเป็น 2 ลักษณะ คือ การดาวน์โหลด และ การอัปโหลด 1.

การสื่อสารผ่านอินเทอร์เน็ต

การสนทนาผ่านเครือข่าย (Talk หรือ Chat) เป็นการติดต่อสื่อสารแบบ 2 ทาง คือ สามารถสื่อสารโต้ตอบกันได้ทันทีเหมือนการใช้โทรศัพท์ สามารถทำได้ทั้งแบบ Text-based และ Voice-based โปรแกรมที่นิยมใช้คือ Talk ซึ่งเป็นการพิมพ์โต้ตอบระหว่างคนสองคน Internet phone เป็นการคุยกันด้วยเสียงแบบเดียวกับโทรศัพท์ และ IRC (Internet Relay Chat) 7. บริการส่งข้อความทางอินเตอร์เน็ต เป็นการส่งข้อความในรูปแบบของข้อความสั้นๆ (Short Message) ผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ตให้ส่งสัญญาณไปยังอุปกรณ์สื่อสารประเภทไร้สาย ได้แก่ โทรศัพท์เคลื่อนที่ หรือเพจเจอร์ เป็นต้น 8. Remote Login เป็นบริการที่ผู้ใช้สามารถติดต่อผ่าน Telenet เข้ากับคอมพิวเตอร์ที่อยู่ห่างไกล และคอมพิวเตอร์นั้นค้นหาสารสนเทศ แหล่งบริการสารสนเทศ เช่น รายการบัตรของห้องสมุด (Online Public Access Catalog: OPAC) ซึ่งเป็นฐานข้อมูลทรัพยากรสารสนเทศที่ห้องสมุดแต่ละแห่งทั่วโลกจัดทำขึ้น และเชื่อมต่อเข้ากับระบบเครือข่าย ที่มา 203/ content/ 01019 b 14 bc 37179 c

การสื่อสารผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต | คอมพิวเตอร์ ง20204

  1. พระ ไม้ โบราณ
  2. - การสื่อสารทางอินเทอร์เน็ต - ICEIZEK12
  3. ประโยชน์และโทษของอินเตอร์เน็ต - first nutticha
  4. รถบดเดินตาม รถบดถนน Sannki Roadroller #รถบดถนน #รถบดเดินตาม #Roadroller - YouTube
  5. ราคา ดอกลำโพง jbl tune
  6. มารยาทในการสื่อสารผ่านอินเทอร์เน็ต
  7. วุ้นเส้น เกาหลี วิธี ทํา excel
  8. ประโยชน์และโทษของอินเทอร์เน็ตเพื่อการสื่อสารในชีวิตประจำวัน – onpriya
  9. การสื่อสารผ่านอินเทอร์เน็ต
  10. แบ่งปันสูตร "ถั่วดำแกงบวด" หอมน้ำกะทิ หวานลงตัว ทานร้อนๆ อร่อยเพลิน - NaiBann.com

การสื่อสารผ่านอินเทอร์เน็ตมีด้านอะไรบ้าง

การสื่อสารทางอินเทอร์เน็ตมีกี่แบบอะไรบ้าง โดยทั่วไป มี 5 ประเภท ได้แก่ 1. การใช้งานอินเตอร์เน็ตผ่าน Dial Up เป็นการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตที่เคยได้รับความนิยมในยุคแรก ๆ โดยใช้เครื่องคอมพิวเตอร์บุคคล กับสายโทรศัพท์บ้านที่เป็นสายตรงต่อเชื่อมเข้ากับโมเด็ม ( Modem) ก็สามารถใช้งานอินเตอร์เน็ตได้แล้ว ผู้ใช้บริการอินเตอร์เน็ตต้องทำการติดต่อกับผู้ให้บริการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตผ่านหมายเลขโทรศัพท์บ้าน โดยผู้ให้บริการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตจะกำหนดชื่อผู้ใช้ ( Username) และรหัสผ่าน (Password) มาให้เพื่อเข้าใช้บริการอินเตอร์เน็ต 2. การใช้งานอินเตอร์เน็ตผ่าน ISDN (Internet Services Digital Network) เป็นการเชื่อมต่อที่คล้ายกับแบบ Dial Up เพราะต้องใช้โทรศัพท์และโมเด็มในการเชื่อมต่อ ต่างกันตรงที่ระบบโทรศัพท์เป็นระบบความเร็วสูงที่ใช้เทคโนโลยีระบบดิจิตอล ( Digital) และต้องใช้โมเด็มแบบ ISDN Modem ในการเชื่อมต่อ 3. การใช้งานอินเตอร์เน็ตผ่าน DSL (Digital Subscriber Line) เป็นเทคโนโลยีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตความเร็วสูงโดยใช้สายโทรศัพท์ธรรมดา ที่สามารถใช้อินเตอร์เน็ตและพูดผ่านสายโทรศัพท์ปกติได้ในเวลาเดียวกัน การเชื่อมต่อต้องใช้ DSL Modem ในการเชื่อมต่อ ต้องติดตั้ง Ethernet Adapter Card หรือ Lan Card ไว้ที่เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตด้วย 4.

การสื่อสารทางอินเทอร์เน็ต ( Internet) เป็นการสื่อสารผ่านระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่มีการเจริญเติบโตรวดเร็วและใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งเว็บไซต์เป็นส่วนสำคัญของอินเทอร์เน็ต สามารถนำเสนอข้อมูลในรูปแบบต่างๆ เช่น สื่อประสม ( Multimedia) รูปแบบของการสื่อสารบนอินเทอร์เน็ต สามารถแบ่งได้ดังนี้ 1. จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ ( E-Mail) เป็นการสื่อสารที่นิยมใช้กันมาก เนื่องจากผู้ใช้สามารถติดต่อสื่อสารกับบุคคลที่ต้องการได้รวดเร็ว ภายในระยะเวลาอันสั้น ไม่ว่าจะอยู่ในที่ทำงานเดียวกันหรืออยู่ห่างกันคนละมุมโลกก็ตาม นอกจากนี้ยังสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายน้อย 2. การสืบค้นข้อมูลแบบเครือข่ายใยแมงมุม ( World Wide Wed: WWW) เป็นการสื่อสารที่เติบโตเร็วที่สุดและง่ายต่อการใช้งานและสามารถนำเสนอข้อมูลกราฟฟิกได้ การใช้ WWW เปรียบเสมือนการเข้าไปอ่านหนังสือในห้องสมุด โดยหนังสือที่มีให้อ่านจะสมบูรณ์มากกว่าหนังสือทั่วไปเพราะสามารถฟังเสียงและดูภาพเคลื่อนไหวประกอบได้ นอกจากนี้ยังสามารถโต้ตอบกับผู้อ่านได้อีกด้วย ลักษณะเด่นอีกประการหนึ่ง คือ ข้อมูลต่างๆจะมีการเชื่อมโยงถึงกันได้ด้วยสมบัติของ Hypeetext Link 3. การโอนย้ายข้อมูล ( File Transfer Protocol: FTP) เป็นการสื่อสารอีกรูปแบบหนึ่งที่ใช้กันมากพอสมควรในอินเทอร์เน็ต โดยอาจใช้เพื่อการถ่ายโอนข้อมูล รวมถึง โปรแกรมต่างๆทั้งที่เป็นฟรีแวร์ ( Freeware) และแชร์แวร์ ( Shareware) จากแหล่งข้อมูลทั้งหลายมายังเครื่องคิมพิวเตอร์ส่วนบุคคลที่ใช้งานอยู่ ปัจจุบันมีหน่วยงานหลายแห่งที่กำหนดให้เครื่องบริการของตนทำหน้าที่เป็น FTP Site เก็บรวบรวมข้อมูลและโปรแกรมต่างๆ สำหรับให้บริการ FTP ที่นิยมใช้กันมาก ได้แก่ WS_FTP, CuteFTP 4.

ห้องสนทนา (chat Room) การสนทนาแบบออนไลน์ (Chat) ผู้ใช้บริการสามารถคุยโต้ตอบกับผู้ใช้คนอื่น ๆ ในอินเตอร์เน็ตได้ในเวลาเดียวกัน (โดยการพิมพ์เข้าไปทางคีย์บอร์ด) เสมือนกับการคุยกัน แต่ผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์ของทั้งสองที่ ซึ่งก็สนุกและรวดเร็ว บริการสนทนาแบบออนไลน์นี้เรียกว่า Talk เนื่องจากใช้โปรแกรมที่ชื่อว่า Talk ติดต่อกันหรือจะคุยกันเป็นกลุ่มหลาย ๆ คนในลักษณะของการ Chat (ชื่อเต็มๆ ว่า Internet Relay Chat หรือ IRC ก็ได้) การสนทนาผ่านเครือข่ายออนไลน์ ที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันมีหลายโปรแกรมเช่น โปรแกรม Windows Messenger (MSN), Yahoo Messenger 5. World Wide Web (www) หรือเครือข่ายใยแมงมุม เป็นบริการหนึ่งที่อยู่บนอินเทอร์เน็ต ที่มีลักษณะของการแสดงผลในรูปแบบ กราฟิกสวยงาม เต็มไปด้วยสีสัน เพียบพร้อมทั้งภาพและเสียงต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เทคโนโลยีด้านมัลติมีเดีย ทำให้เครือข่ายคอมพิวเตอร์ทวีความมหัศจรรย์ให้กับ การศึกษาในโลกไร้พรมแดน เหตุที่เรียกว่า ใยแมงมุม ก็ด้วยความสามารถในการ เชื่อมโยงข้อมูล จากตำแหน่งหนึ่งไปยังอีกตำแหน่งหนึ่งได้ ด้วยการคลิกเมาส์ที่จุดเชื่อมโยง เพียงครั้งเดียว ทำให้สามารถผูกเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกันจากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ทั่วทุกมุมโลก เข้าด้วยกันได้สะดวกต่อการศึกษาค้นคว้า 6.

๑) ทำความเข้าใจความหมายของคำเชื่อมที่สำคัญ ได้แก่ คำว่า "และ" ใช้เพื่อจำกัดขอบเขตของข้อมูลให้แคบลง เช่น ระบุว่า "ว. วินิจฉัยกุล" และ "เรื่องสั้น" ข้อมูลที่ได้จะเน้นข้อมูลของ ว. วินิจฉัยกุล เฉพาะที่เกี่ยวกับเรื่องสั้นเท่านั้น จะไม่ปรากฎเรื่องราวด้านอื่น แต่ถ้าต้องการเพิ่มขอบเขตของข้อมูลให้กว้างขึ้น คำที่สองคือ "หรือ" เช่น "ว. วินิจฉัยกุล" หรือ "ทมยันตี" ข้อมูลที่ได้ก็จะเน้นข้อมูลเกี่ยวกับ ว. วินิจฉัยกุลและทมยันตี ที่มีอยู่ในฐานข้อมูล อีกทั้งสามารถใช้คำว่า​ "ไม่" ในการสืบค้นเพื่อลดขอบเขตของข้อมูล เช่น "ว. วินิจฉัยกุล" ไม่ "ประวัติ" ข้อมูลที่ได้จะเน้นเรื่องราวของว. วินิจฉัยกุลทุกด้าน แต่จะไม่ปรากฎประวัติชีีวิตของท่าน ๓. ๒) ใช้สัญลักษณ์ หากไม่ทราบวิธีสะกดคำที่ถูกต้อง เครื่องหมายคำถาม (? ) ใช้แทนอักษร ๑ ตัว ส่วนเครื่องหมายดอกจัน (*) ใช้แทนอักษรหลายตัว เช่น ต้้องการค้นเรื่อง "เอกภาพ" แต่ไม่แน่ใจว่าเป็น พ หรือ บ ให้พิมพ์ว่า " เอกภา? " ๓. ๓) ฐานข้อมูลอีริก (ERIC database) ซึ่งเป็นฐานข้อมูลด้านการศึกษาให้ใช้คำว่า NEAR (แปลว่าใกล้) สำหรับการค้นแบบรวบรวมคำที่ใกล้เคียงกับคำที่ต้องการด้วย

1. การใช้เครือข่าย อินเทอร์เน็ตร่วมกับบุคคลอื่น ปัจจุบันอินเทอร์เน็ตเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันสูงมาก จนทำให้วิถีการทำงาน และการดำเนินชีวิตของคนเปลี่ยนแปลงไป จนทำให้คนจำนวนไม่น้อยใช้เวลาในโลกของการออนไลน์ ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต พอ ๆ กับที่ใช้เวลาทำสิ่งต่าง ๆ บนโลกจริง หรือหลายคนอาจจะมากกว่า อินเทอร์เน็ตเป็นระบบเครือข่ายเปิดที่ใครๆก็สามารถเข้าไปใช้งานได้ จึงเป็นเรื่องยากที่จะควบคุมการใช้งานของผู้ที่จะเข้าไปใช้อินเทอร์เน็ตได้ มารยาทในการใช้อินเทอร์เน็ต เรียกว่าบัญญัติ 10 ประการของการใช้อินเทอร์เน็ตก็ได้ โดยอาจารย์ยืน ภู่วรวรรณ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร 1. ต้องไม่ใช้คอมพิวเตอร์ทำร้าย หรือละเมิดผู้อื่น 2. ต้องไม่รบกวนการทำงานของผู้อื่น 3. ต้องไม่สอดแนม แก้ไข หรือเปิดดูแฟ้มข้อมูลของผู้อื่น 4. ต้องไม่ใช้คอมพิวเตอร์เพื่อการโจรกรรมข้อมูลข่าวสาร 5. ต้องไม่ใช้คอมพิวเตอร์สร้างหลักฐานที่เป็นเท็จ 6. ต้องไม่คัดลอกโปรแกรมของผู้อื่นที่มีลิขสิทธิ์ 7. ต้องไม่ละเมิดการใช้ทรัพยากรคอมพิวเตอร์โดยที่ตนเองไม่มีสิทธิ์ 8. ต้องไม่นำเอาผลงานของผู้อื่นมาเป็นของตน 9. ต้องคำนึงถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับสังคมที่เกิดจากการกระทำของท่าน 10.

  1. นักแสดง law school singapore